เมื่อคุณตัดสินใจทำประกันสุขภาพ หนึ่งในคำศัพท์ที่มักจะพบคือ “ระยะเวลารอคอย” ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขที่สำคัญและส่งผลต่อการใช้สิทธิ์ของคุณอย่างมาก
ระยะเวลารอคอย (Waiting Period) คือช่วงเวลาที่กรมธรรม์เริ่มมีผลบังคับ แต่ยังไม่สามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลในบางกรณีได้ ต้องรอให้เวลาผ่านไปตามที่ระบุไว้ในสัญญาก่อน จึงจะสามารถใช้สิทธิ์ความคุ้มครองเหล่านั้นได้
โดยทั่วไป ประกันสุขภาพจะแบ่งระยะเวลารอคอยออกเป็น 4 แบบ ดังนี้:
1. ระยะเวลารอคอย 30 วัน
ใช้กับโรคทั่วไปที่ไม่ได้มีอยู่ก่อนการทำประกัน เช่น ไข้หวัดใหญ่ อาหารเป็นพิษ เป็นต้น หากเกิดโรคเหล่านี้ภายใน 30 วันแรกหลังทำประกัน บริษัทประกันจะยังไม่คุ้มครอง
2. ระยะเวลารอคอย 90 วัน
ใช้กับ ประกันโรคร้ายแรงที่ซื้อเพิ่มเติมจากประกันสุขภาพ โดยมีทั้งแบบเจอจ่ายเงินก้อน และแบบที่เป็นค่ารักษาเฉพาะโรค
3. ระยะเวลารอคอย 120 วัน
ใช้กับ โรคที่มีโอกาสเป็นก่อนทำประกัน (Pre-existing Conditions) ได้แก่
- เนื้องอก ถุงน้ำ มะเร็งทุกชนิด
- ริดสีดวงทวาร
- ไส้เลื่อนทุกชนิดชนิด
- ต้อเนื้อหรือต้อกระจก
- การตัดทอนซิลหรืออดีนอยด์
- นิ่วทุกชนิด
- เส้นเลือดขอดที่ขา
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
หากตรวจพบหรือเจ็บป่วยในช่วง 120 วันแรก บริษัทประกันจะไม่จ่ายค่ารักษาในส่วนนี้
4. ระยะเวลารอคอย 180 วัน
ใช้กับ ความคุ้มครองผู้ป่วยนอกหรือ OPD บางโรค ที่เป็นโรคเรื้อรัง ได้แก่
- โรคต่อมไทรอยด์
- โรคลมบ้าหมู
- โรคเบาหวาน
- โรคภูมิแพ้
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคหัวใจ
- โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร
ทำไมต้องใส่ใจเรื่องระยะเวลารอคอย?
เพราะหลายคนเข้าใจผิดว่าทำประกันแล้วสามารถใช้ได้ทันที หากคุณวางแผนใช้สิทธิ์ในช่วงแรกโดยไม่รู้เงื่อนไขนี้ อาจทำให้ผิดหวังและเสียสิทธิ์ได้
⸻
วางแผนวันนี้ เพื่อความมั่นคงในวันหน้า
สุขภาพเป็นเรื่องไม่แน่นอน การมีประกันสุขภาพไม่ใช่แค่การเตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างหลักประกันให้กับตัวคุณเองและครอบครัว อย่ารอให้เจ็บป่วยก่อนแล้วค่อยมองหาประกัน เพราะเมื่อถึงตอนนั้น “ระยะเวลารอคอย” อาจเป็นกำแพงที่ทำให้คุณไม่ได้รับความคุ้มครองทันทีที่ต้องการ
เริ่มต้นวันนี้ เพื่อความอุ่นใจในวันพรุ่งนี้

